ความแตกต่างระหว่าง Stroke กับ TIA (Transient Ischemic Attack)
1. Stroke (โรคหลอดเลือดสมอง) คืออะไร?
- คือภาวะที่มีการ ขาดเลือดหรือเลือดออกในสมอง อย่างถาวร จนทำให้เนื้อสมองเสียหายถาวร
- แบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ
- Stroke ขาดเลือด (Ischemic Stroke): หลอดเลือดตีบ/อุดตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้
- Stroke เลือดออก (Hemorrhagic Stroke): หลอดเลือดสมองแตก เลือดออกในสมอง
- ลักษณะเด่น: อาการเกิดขึ้นแล้ว ไม่หายเอง และทำให้สมองเสียหายถาวร (บางครั้งถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิการ)
2. TIA (Transient Ischemic Attack) คืออะไร
- เรียกง่าย ๆ ว่า “ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว” หรือ “Mini-Stroke”
- เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดชั่วขณะ เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่พอ แต่หลังจากนั้นเลือดกลับมาไหลเวียนได้เอง
- อาการจะเหมือน Stroke ทุกอย่าง เช่น แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด หน้าบิดเบี้ยว แต่จะ หายได้เองภายในไม่กี่นาทีถึงไม่เกิน 24 ชั่วโมง
- ลักษณะเด่น: ไม่มีความเสียหายถาวรต่อสมอง แต่ถือเป็นสัญญาณเตือนอันตราย เพราะมีความเสี่ยงเกิด Stroke ใหญ่ตามมาในเวลาอันใกล้
ไม่ว่าคิดว่าจะเป็น Stroke หรือ TIA ก็ต้องรีบพบแพทย์ฉุกเฉินทันที เพราะ TIA ก็ถือเป็นการเตือนครั้งสำคัญ และ Stroke ต้องรีบรักษาในเวลาไม่กี่ชั่วโมงแรก เพื่อเพิ่มโอกาสรอดและลดความพิการ