น้ำท่วมทำให้เสี่ยงต่อโรคอะไรได้มากกว่าปกติ น้ำท่วมสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรคต่างๆ มากกว่าปกติ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและการแพร่กระจายของพาหะนำโรค ซึ่งโรคที่มีความเสี่ยงในช่วงน้ำท่วม ได้แก่

  • โรคที่มาจากน้ำหรืออาหารปนเปื้อน เช่น โรคอุจจาระร่วง อหิวาตกโรค เป็นต้น
  • โรคจากพาหะนำโรค เช่น โรคไข้เลือดออก และ มาลาเรีย โรคไข้สมองอักเสบ ซึ่งยุงลายเป็นพาหะนำโรค เป็นต้น
  • โรคติดเชื้อทางผิวหนัง เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนู เป็นต้น
  • โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • โรคตับอักเสบเอ (Hepatitis A) เกิดจากการบริโภคน้ำหรืออาหารที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบปนเปื้อน
  • โรคเยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) การสัมผัสกับน้ำสกปรกสามารถทำให้เกิดอาการเยื่อบุตาอักเสบ หรือที่เรียกว่า ตาแดง ได้
  • โรคพยาธิ เช่น พยาธิไส้เดือน หรือ พยาธิเส้นด้าย ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนังที่สัมผัสน้ำสกปรก หรือจากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนพยาธิ

การดูแลสุขภาพ ในสถานการณ์น้ำท่วมต่างๆ

การดูแลความสะอาดของร่างกาย เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อและโรคต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณต่อไปนี้ที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เช่น มือและเล็บควรล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาดก่อนรับประทานอาหาร หลังจากเข้าห้องน้ำ และหลังการสัมผัสน้ำหรือตะกอนดิน เท้าและขาจะมีโอกาสสัมผัสน้ำสกปรกมากที่สุด ซึ่งอาจทำให้เกิด โรคน้ำกัดเท้า และการติดเชื้อรา ผิวหนังบริเวณที่เกิดบาดแผลหรือรอยขีดข่วน ใบหน้าและดวงตา หากมีการสัมผัสน้ำสกปรกโดยไม่ตั้งใจ ควรล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดทันที ช่องปากและฟัน ควรรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันให้ดี เช่น การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก

ความสะอาดของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคและรักษาสุขภาพของคนในบ้าน ซึ่งมีเครื่องใช้ที่ควรให้ความสำคัญในการทำความสะอาดเป็นพิเศษ เช่น ภาชนะและเครื่องใช้ในการรับประทานอาหาร อุปกรณ์การดื่มน้ำและที่กักเก็บน้ำ เสื้อผ้าและผ้าขนหนู อุปกรณ์ทำครัว อุปกรณ์สุขภัณฑ์และห้องน้ำ ของเล่นเด็กและสิ่งของที่เด็กใช้ รองเท้าและเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

การดูแลความสะอาดของเครื่องใช้เหล่านี้อย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรค และทำให้สภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ปลอดภัยมากขึ้นในช่วงน้ำท่วม

การรับประทานอาหารที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันการเกิดโรคจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อน ซึ่งสามารถทำได้โดยการเลือกอาหารที่สะอาดและการจัดเตรียมอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ การเลือกและจัดเก็บอาหาร ให้เลือกอาหารที่สะอาดและปรุงสุกใหม่ๆ เก็บอาหารในภาชนะปิดสนิท ใช้อาหารสำเร็จรูป เช่น อาหารกระป๋อง ขนมปังแห้ง หรืออาหารที่ไม่ต้องการการแช่เย็น เป็นต้น

การดื่มน้ำและเครื่องดื่ม ให้ดื่มน้ำต้มสุกหรือกรองแล้วหรือใช้น้ำดื่มบรรจุขวด หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่อาจปนเปื้อน เช่น น้ำบ่อหรือน้ำจากแม่น้ำ สุขอนามัยในการรับประทานอาหาร ให้ล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการใช้มือหยิบจับอาหารโดยตรง และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำจากไข่ดิบหรือเนื้อดิบ เพราะอาจมีเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงหรืออาการเจ็บป่วยอื่นๆ เป็นต้น อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ขายในแผงลอยริมทางหรือในบริเวณที่ถูกน้ำท่วม เพราะมักมีความเสี่ยงสูงในการปนเปื้อนเชื้อโรคจากสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดอาหารทะเลดิบหรือหอยดิบ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานในช่วงน้ำท่วม เพราะอาหารเหล่านี้อาจปนเปื้อนเชื้อโรคที่มาจากน้ำสกปรก

สัตว์บางชนิดอาจกลายเป็นอันตรายมากขึ้น เนื่องจากน้ำท่วมอาจทำให้สัตว์เหล่านี้เคลื่อนย้ายหรือเข้ามาใกล้พื้นที่อาศัยของมนุษย์มากขึ้น ดังนั้น การรู้จักและระวังสัตว์เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกกัดหรือติดเชื้อโรคได้ เช่น งู ตะขาบและแมงป่อง หนู จระเข้ ยุง ปลิงและทาก แมลงวันและแมลงต่างๆ เป็นต้น

การเฝ้าระวังและป้องกันสัตว์เหล่านี้ในช่วงน้ำท่วมจะช่วยลดความเสี่ยงของการถูกสัตว์กัดหรือติดเชื้อจากพาหะสัตว์เหล่านี้ได้อย่างมาก ควรให้ความสำคัญในการรักษาความสะอาดและตรวจสอบพื้นที่รอบตัวอย่างสม่ำเสมอ