แนวทางดูแลตัวเองเมื่อตรวจพบโรคไตเสื่อมในแต่ละระยะ (ระยะ 1-5)
ระยะที่ 1: ไตเสื่อมเล็กน้อย (eGFR ≥ 90)
- ไตยังทำงานได้เกือบปกติ แต่เริ่มมีความผิดปกติ เช่น โปรตีนรั่ว
- ดูแลตัวเอง:
- ควบคุมความดันโลหิตและน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ดี
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ลดเค็ม (โซเดียม < 2,300 มก./วัน)
- เลิกบุหรี่
- พบแพทย์เพื่อติดตามอย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง
ระยะที่ 2: ไตเสื่อมเล็กน้อยถึงปานกลาง (eGFR 60–89)
- ยังไม่มีอาการชัด แต่ไตเริ่มเสื่อมลงเล็กน้อย
- ดูแลตัวเอง:
- ทุกอย่างเหมือนระยะ 1
- เริ่มควบคุมโปรตีนในอาหาร (ไม่กินเนื้อสัตว์มากเกินไป)
- หลีกเลี่ยงยาที่ทำร้ายไต เช่น ยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs (เช่น Ibuprofen)
ระยะที่ 3: ไตเสื่อมปานกลาง (eGFR 30–59)
- เริ่มมีของเสียคั่งในร่างกาย อาจเหนื่อยง่าย บวม ความดันสูง
- ดูแลตัวเอง:
- ควบคุมอาหารอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการจำกัดโซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส
- ลดปริมาณโปรตีนให้พอเหมาะตามที่แพทย์กำหนด (ไม่ตัดโปรตีนหมด แต่ต้องควบคุม)
- ตรวจเลือดและปัสสาวะทุก 3–6 เดือน
- ดูแลกระดูก (อาจต้องเสริมวิตามิน D หรือยาควบคุมฟอสฟอรัส)
ระยะที่ 4: ไตเสื่อมรุนแรง (eGFR 15–29)
- ไตทำงานน้อยมาก ของเสียเริ่มคั่งชัดเจน อาจมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้
- ดูแลตัวเอง:
- ปรับอาหารอย่างเคร่งครัด (โดยนักกำหนดอาหารเฉพาะโรคไต)
- ควบคุมปริมาณน้ำดื่ม ถ้ามีบวม
- เตรียมวางแผนการบำบัด เช่น ฟอกไตหรือปลูกถ่ายไตในอนาคต
- พบแพทย์ถี่ขึ้น (เช่นทุก 1–3 เดือน)
ระยะที่ 5: ไตวายระยะสุดท้าย (eGFR <15)
- ไตไม่สามารถขับของเสียหรือน้ำเกินได้ ต้องเริ่มการบำบัดทดแทนไต เช่น ฟอกไต หรือปลูกถ่ายไต
- ดูแลตัวเอง:
- เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม (ฟอกไตทางเส้นเลือด, ทางช่องท้อง หรือปลูกถ่ายไต)
- ปรับอาหารและน้ำดื่มตามแพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด
- ดูแลสภาพจิตใจให้พร้อมรับการรักษาระยะยาว
สรุประยะไตเสื่อมต่างๆ
- ไตเสื่อมระยะแรกๆ เน้น “คุมโรคประจำตัว” และ “ลดเค็ม ลดโปรตีน”
- ไตเสื่อมระยะกลาง เน้น “คุมอาหารอย่างจริงจัง”
- ไตเสื่อมระยะรุนแรง เน้น “เตรียมวางแผนรักษา” และ “ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด”