การนอนกรนเป็นหนึ่งในภาวะผิดปกติของการนอนหลับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
กรน เป็นอาการที่พบได้ทั่วไปจึงมักถูกมองข้ามด้วยความเคยชินและคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่จริงแล้วการนอนกรนเป็นหนึ่งในภาวะผิดปกติของการนอนหลับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำให้เกิดโรคหลายอย่างตามมา
กรนแค่ไหน เข้าขั้นอันตราย
การนอนกรนที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพนั้นสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง โดยอาจเป็นการบันทึกเสียงระหว่างการนอนหลับหรือให้บุคคลใกล้ชิดเป็นผู้แจ้งเตือนว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่ คือ
กรนเสียงดังมากจนรบกวนการนอนของผู้อื่น
กรนสลับกับหยุดหายใจเป็นช่วงๆ กรนแล้วสะดุ้งเฮือกเพื่อหาอากาศหายใจ ส่วนอาการร่วมอื่นๆ ได้แก่
- ปัสสาวะกลางคืนบ่อยครั้ง
- รู้สึกไม่สดชื่นในตอนเช้าและพบว่ามีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ
- ง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวัน
- ความดันโลหิตสูงขึ้น
หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจ Sleep test และหาแนวทางในการรักษาที่เหมาะสมต่อไป การตรวจวินิจฉัยการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับสามารถทำได้โดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการการนอน ซึ่งผู้เข้ารับการตรวจจำเป็นต้องนอนพักในโรงพยาบาล 1 คืน ทั้งนี้ การตรวจจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะเป็นการตรวจว่ามีการหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่และมากน้อยเพียงใด และช่วงที่สองเป็นช่วงของการบำบัดรักษาอาการ ซึ่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการการนอนนี้จะช่วยให้แพทย์ทราบประเภทการนอนกรนและความรุนแรงของโรคของผู้ป่วยได้ว่าอยู่ในภาวะนอนกรนธรรมดาที่ไม่มีการหยุดหายใจร่วมด้วย (primary snoring) หรือกรนอันตราย (obstructive sleep apnea) ที่มีภาวะหยุดหายใจขาดอากาศขณะนอนหลับร่วมด้วยเพื่อให้การรักษาที่ได้ผลดีกับผู้ป่วยมากที่สุด
การนอนกรนนั้น หากไม่รุนแรงมากนักสามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง
โดยการควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์ที่กำหนด
ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ
งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลฮอลล์
ไม่สูบบุหรี่
ปรับพฤติกรรมการนอนให้เพียงพอและเป็นเวลา
แต่หากการนอนกรนเริ่มส่งสัญญาณอันตรายตามอาการที่ได้กล่าวไว้แล้วเบื้องต้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อเข้ารับการตรวจรักษาก่อนที่อาการจะรุนแรงและนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ยากต่อการเยียวยา