คลินิกอายุรกรรมโรคข้อและรูมาติสซั่ม
ที่ตั้ง
อาคาร C ชั้น 1
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
เวลาทำการ
เวลา 09:00 – 16:00 น.
เบอร์ติดต่อ
โรคข้ออักเสบทั้งหมดจะมาด้วยอาการปวด ซึ่งรูปแบบการปวดจะแตกต่างกันตามชนิดของข้ออักเสบและตำแหน่ง ข้ออักเสบรูมาตอยด์มักมีอาการปวดตอนเช้า ในระยะแรกผู้ป่วยมักบอกว่าอาการปวดหายไปหลังจากอาบน้ำตอนเช้า ในผู้สูงอายุหรือเด็กอาจไม่ได้มาด้วยอาการปวด เพราะผู้สูงอายุมักขยับร่างกายได้น้อย ส่วนในเด็กเล็กผู้ป่วยจะปฏิเสธที่จะใช้แขนขาข้างที่เป็น
แพทย์ประจำคลินิกอายุรกรรมโรคข้อและรูมาติสซั่ม
อาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
อาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตามข้อ ข้อที่พบบ่อยคือข้อนิ้วมือ ข้อนิ้วเท้า ข้อมือ ข้อศอก ข้อไหล่ มักจะปวดทั้ง 2 ข้าง แต่อาการปวดจะเป็นมากสลับน้อย มักไม่มีช่วงที่ไม่มีอาการ หลังได้รับการรักษาอาการดีขึ้นแต่ไม่หายขาด ต้องรับประทานยาควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง
อาการปวดข้อดำเนินไปอย่างช้าๆอาจนานเป็นสัปดาห์ถึงเป็นเดือน โดยตัวข้อจะมีอาการปวดบวมแดงร้อน ร่วมกับมีอาการข้อฝืดมักเป็นช่วงกลางดึกและหลังตื่นนอน จะมีอาการฝืดขัด ขยับลำบาก กำมือลำบากมากขึ้น เมื่อไม่ได้ขยับเป็นเวลานาน ปวดข้อมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นของวัน
อาจจะมีอาการปวดเมื่อย/เมื่อยล้าทั่วร่างกาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่สามารถทำงาน/กิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ และอาการของอวัยวะอื่นอักเสบ เช่น ผิวหนัง ตา ปอด หัวใจ ไต ต่อมน้ำลาย เส้นประสาท ระบบเลือด และอื่นๆ
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วย ที่ควรบอกแพทย์ เพื่อช่วยบอกการวินิจฉัยโรคได้
- เวลาและความเร็วขณะเกิดอาการ
- รูปแบบของข้อที่เกี่ยวข้อง ความสมมาตร
- อาการปวดข้อตอนเช้า
- ความรู้สึกข้อตึงยึดหรือล็อกเมื่อไม่ได้ทำกิจกรรม
- ปัจจัยที่กระตุ้นหรือทุเลาอาการ เช่น ทำกิจกรรมอะไร แล้วเจ็บมาก ทำอะไรแล้วจะไม่เจ็บ
- อาการในระบบอื่นๆ
คลินิกอายุรกรรมเฉพาะทาง ของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต เรามีบริการตรวจรักษาโรคกลุ่มนี้ โดยอายุรแพทย์เฉพาะทางโรคข้อและรูมาติสซั่ม ดังนี้
- โรคข้ออักเสบรูมาติสซั่ม (Rheumatoid arthritis)
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง / โรคลูปัส (Systemic lupus erythematosus หรือ SLE)
- โรคเกาต์ / โรคเกาต์เทียม (Gout / Pseudo gout)
- โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
- โรคหนังแข็ง (Scleroderma)
- โรคเนื้อเยื่ออ่อน และรูมาติกเฉพาะที่ (Soft tissue Rheumatism) เช่น ถุงน้ำบริเวณข้ออักเสบ เส้นเอ็นอักเสบ
การวินิจฉัยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
วินิจฉัยจากการซักประวัติและตรวจร่างกายที่เข้าได้กับโรค การตรวจร่างกายจะช่วยยืนยันการวินิจฉัยหรืออาจบ่งถึงโรคทางกายอื่นที่ทำให้เกิดอาการที่ข้อ การตรวจเลือดที่สำคัญ คือ
- Rheumatoid Factor (RF) เป็นแลปที่อยุ่ในเกณฑ์การวินิจฉัย มีความไวสูงแต่เนื่องจากความจำเพาะต่ำ สามารถพบผลบวกได้ใน ผุ้สูงอายุ/โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอักเสบอื่นๆและโรคติดเชื้อ จึงต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการแปลผล
- Anti-CCP มีความไวในการวินิจฉัยพอๆกับ RF แต่มีความจำเพาะสูงกว่า RF
ในผู้ป่วยที่มีข้ออักเสบเรื้อรัง ถ้าตรวจไม่พบทั้ง RF และ Anti-CCP จะช่วยในการวินิจฉัย seronegative RA, seronegative spondyloarthropathy(SNSA)ได้
การตรวจเลือดและเอกซเรย์ที่ข้อที่เป็น เพื่อให้ได้การวินิจฉัยแน่นอน การตรวจเลือดจะทำเมื่อสงสัยข้ออักเสบบางอย่าง อาทิ รูมาตอยด์ แฟกเตอร์ แอนตินิวเคลียร์แฟกเตอร์ (ANF) และแอนติบอดีจำเพาะอื่น
การรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
โรครูมาตอยด์เป็นโรคที่มีความผิดปกติของการควบคุมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ก่อให้เกิดการอักเสบ ดังนั้นยาที่ใช้จึงเป็นกลุ่มที่มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกันให้ทำงานลดลง โดยมีจุดมุ่งหมายของการรักษาคือ
- ลดความเจ็บปวด
- ลดการอักเสบของข้อ
- ทำให้ข้อมีสภาพใช้งานได้เหมือนปกติ
โดยยาที่ใช้หลักคือยาปรับเปลี่ยนการดำเนินโรค (Disease Modifying Antirheumatic Drugs;DMARDs) รวมไปถึงยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยากลุ่มสเตียรอยด์ และยากลุ่มสารชีวภาพ
ปกติแล้วการรักษาโรครูมาตอยด์จะทำการรักษาตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง แพทย์จะประเมิณผลของการรักษาและดูผลข้างเคียงของยาปรับยาทุก 1-3 เดือน แล้วแต่ความรุนแรงของโรค โดยจะเน้นให้ผุ้ป่วยมาตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากขาดนัดไปไม่ได้รับยาจะทำให้มีอาการปวดอักเสบของข้อมากขึ้น ข้อพิการผิดรูปมากขึ้นจนยากที่จะกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติเหมือนดังเดิม
การรักษาโรคกลุ่มดังกล่าวนี้ ต้องรักษาอย่างจริงจังและถูกต้องแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันความพิการได้ คลินิกอายุรกรรมโรคข้อและรูมาติสซั่ม โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต เราพร้อมให้คำปรึกษา วินิจฉัย และให้การรักษาโดยอายุรแพทย์เฉพาะทางโรคข้อและรูมาติสซั่ม