Slim G-Ball ใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก อยากเปลี่ยนตัวเองอย่างจริงจัง ลดหุ่น ปรับภาพลักษณ์ เสริมความมั่นใจ สร้างโอกาสใหม่ให้ชีวิต ด้วยนวัตกรรมลดน้ำหนักด้วยบอลลูน เราเชี่ยวชาญด้วยประสบการณ์มากกว่า 500 ราย …

Slim ball ลดน้ำหนักด้วยบอลลูน

ปลอดภัยแบบไม่ต้องผ่า

เมื่อเจอปัญหาความน้ำหนักเกินสิ่งแรกที่หลายคนทำคือการโหมออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง แต่แกนหลักสำคัญของความอ้วนเกิดจากการรับประทานอาหารในปริมาณที่เกินกว่าร่างกายต้องการ ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ไม่หมด เกิดการสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน ส่งผลต่อรูปร่างความมั่นใจและสุขภาพในระยะยาว

การลดน้ำหนักที่ถูกต้องคือการทานอาหารแต่พอดี ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย Slim ball หรือบอลลูนลดน้ำหนัก เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยวิธีการใส่บอลลูนโดยการส่องกล้องในกระเพาะอาหาร ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องทานยา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างเป็นระบบด้วยตนเอง ปลอดภัยและได้ผลจริง

รู้จัก Slim ball ลดน้ำหนักด้วยบอลลูน

Slim ball หรือ บอลลูนลดน้ำหนัก คือการลดน้ำหนักด้วยการใช้เทคนิคการส่องกล้องลงไปในกระเพาะอาหารเพื่อใส่บอลลูน การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารจะลดพื้นที่ในกระเพาะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง รู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความหิวจะหลั่งลดลง และรู้สึกหิวน้อยลงอีกด้วย ทั้งนี้ยังทำให้ผู้ที่ใส่บอลลูนลดน้ำหนักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและส่งผลให้น้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่อง สามารถใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารได้นานสูงสุดอยู่ที่ 1 ปี แต่หากมีน้ำหนักที่ลดลงตามความต้องการแล้ว ก็สามารถนำบอลลูนออกได้

บอลลูนที่ใช้ใส่ในกระเพาะอาหาร จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 10 – 14 เซนติเมตร เมื่อส่องกล้องเพื่อนำบอลลูนใส่เข้าในกระเพาะอาหาร จะทำการเติมน้ำสีฟ้าที่เรียกว่า เมธิลีนบลู เข้าไปในบอลลูน ในปริมาณ 400 – 500 ซีซี เพื่อให้บอลลูนขยายขึ้น โดยตัวบอลลูนสามารถเพิ่มหรือลดขนาดได้ตามความต้องการขึ้นอยู่กับสรีระร่างกายของแต่ละบุคคล

Slim ball ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร

การใส่ Slim ball หรือบอลลูนในกระเพาะอาหารจะลดพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง รู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการหิวจะหลั่งลดลง ทำให้รู้สึกหิวน้อยลง แต่หากมีน้ำหนักที่ลดลงตามความต้องการแล้ว ก็สามารถนำบอลลูนออกได้

ข้อดีของ Slim ball ลดน้ำหนักด้วยบอลลูน

  1. สามารถลดน้ำหนักได้ผลจริง ปลอดภัย โดยการใช้เทคนิคการส่องกล้องในกระเพาะอาการ
  2. ไม่มีผลข้างเคียง ไม่โยโย่ เพราะบอลลูนจะอยู่ในท้องเราเพื่อช่วยปรับพฤติกรรมการกิน
  3. เป็นวิธีการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ไม่เกิดแผล และไม่เจ็บ
  4. ลดภาวะเสี่ยงจากโรคเรื้อรังที่เกิดจากความอ้วน ทั้งความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ข้อเข่าเสื่อม และโรคอื่นๆ

ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น

อาจทำให้เกิดแผล และภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหารได้ ซึ่งพบได้น้อยมาก เพราะฉะนั้นผู้ที่ใส่บอลลูนจึงต้องรับประทานยาป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารควบคู่ไปตลอดระยะเวลาที่ใส่บอลลูน

ผลลัพธ์จากการทำ Slim ball ลดน้ำหนักด้วยบอลลูน

จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน หรืออาจจะอิ่มตลอดเวลา ทำให้ทานได้น้อยลง สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 15-20 กิโลกรัม ในเวลา 1 ปี หรือนำออกก่อนกำหนดเมื่อถึงน้ำหนักที่ต้องการ

การเตรียมตัวและข้อปฏิบัติก่อนทำ

  1. รับประทานยารักษาแผลในกระเพาะอาหารก่อนอาหารเช้าและเย็นเป็นเวลา 14 วัน
  2. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  3. ตรวจสุขภาพ (ตรวจเลือด เอกซเรย์ทรวงอก คลื่นไฟฟ้าหัวใจ)
  4. ส่องตรวจดูกระเพาะอาหารเพื่อดูความพร้อมของกระเพาะอาหาร ในวันที่มาใส่บอลลูน หากพบว่ามีบาดแผลหรือเนื้องอก ต้องเลื่อนการใส่ไปก่อน
  5. ต้องงดรับประทานอาหารมาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง งดน้ำเปล่าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนทำการใส่บอลลูน
  6. พักผ่อนให้เพียงพอ

การใส่ Slim Ball ในกระเพาะอาหาร

ทั้งนี้ วิธีการลดน้ำหนักด้วยการใส่ Slim ball จะใช้เทคนิคการส่องกล้องในกระเพาะอาหารทั่วไป หลังจากนั้นจะใส่น้ำที่ผสมกับสารสีฟ้าที่เรียกว่าเมธิลีนบลูเข้าไปในบอลลูนประมาณ 400-500 ซีซี แล้วจึงนำกล้องออก โดยบอลลูนสามารถปรับขนาดเพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการในภายหลัง บอลลูนที่ใส่ในกระเพาะนั้นสามารถใส่ได้นานสูงสุด 1 ปี แต่หากพอใจในน้ำหนักที่ลดลงก็สามารถเอาบอลลูนออกก่อน 1 ปี โดยปล่อยน้ำในลูกบอลลูนออก และส่องกล้องเพื่อนำลูกบอลลูนออกจากร่างกาย

อาการที่อาจพบได้

  1. คลื่นไส้ อาเจียน
  2. ท้องอืด แน่นท้อง

ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายเองได้ภายใน 3-7 วัน

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับปัญหาภาวะแทรกซ้อนจากการใส่บอลลูนสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนั้น โดยรวมพบเพียง 0.27% เมื่อเทียบกับการผ่าตัดกระเพาะอาหารลดความอ้วน ที่มีภาวะแทรกซ้อนมากถึง 7-9% ภาวะแทรกซ้อนของการใส่บอลลูนส่วนใหญ่จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้องช่วงสัปดาห์แรกหลังใส่บอลลูน

ข้อห้ามในการใส่ Slim ball ลดน้ำหนัก

  • สตรีมีครรภ์ – ผู้ที่มีความผิดปกติของหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร เช่น เป็นแผลในกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อนรุนแรง หรือเคยผ่าตัดกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร
  • แพ้ยางซิลิโคน – ผู้ที่เป็นโรคประจำตัวรุนแรงอย่างโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น

ถึงแม้ว่าการลดน้ำหนักด้วย Slim ball ลดน้ำหนักด้วยบอลลูนจะปลอดภัยและ ได้ผลจริง แต่ควรทำในโรงพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางและเชี่ยวชาญ พร้อมทีมงานที่มีประสบการณ์ในการใส่บอลลูน ในกระเพาะอาหาร

จอง คลิกที่นี่