เกิดจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ส่วนปลาย ได้แก่ ปลายลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก ที่มีการบีบตัวมากเกินไป ทำให้เกิดอาการ ปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ท้องผูกหรือท้องเสีย เป็นต้น
อาการลำไส้แปรปรวน มีอาการ
- ปวดท้อง อย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ในช่วง 3 เดือน
- ท้องผูก และ/หรือ ท้องเสีย
- ท้องอืด แน่นท้อง
- ปวดเกร็งบริเวณท้องน้อยหรือใต้สะดือ
- มีลมในท้อง
- อาการปวดหายไปหลังขับถ่าย
สาเหตุของภาวะลำไส้แปรปรวน ไม่สามารถได้แน่ชัด แต่มีหลายปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะลำไส้แปรปรวน
- การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ
- การรับรู้ของระบบทางเดินอาหารที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ
- ปัญหาในการย่อยอาหาร
- การติดเชื้อในทางเดินอาหาร
- ปัญหาทางด้านจิตใจและอารมณ์
- การใช้ยาบางชนิด
- กรรมพันธุ์ โดยพบว่า ในครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคลำไส้แปรปรวน จะมีแนวโน้มการเกิดโรคนี้ 2 – 3 เท่า
ปฏิบัติตัวอย่างไร ห่างไกลจากลำไส้แปรปรวน
- ลดการรับประทานเนื้อสัตว์หรือไข่ ซึ่งเป็นโปรตีนย่อยยาก ควรเน้นรับประทานอาหารประเภทที่ย่อยง่าย เช่น เต้าหู้ ถั่วเหลือง และเนื้อปลา
- หลีกเลี่ยงการรับประทานของมัน ของทอด เบเกอรี่
- รับประทานอาหาร ผักผลไม้ที่มีเส้นใย
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่ควรอดอาหาร ไม่ควรเร่งรีบรับประทาน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด ซึ่งทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ