ปัญหาสุขภาพที่จะตามมาหลังแผ่นดินไหว มีดังนี้
1. โรคและการบาดเจ็บจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
- บาดแผลฉกรรจ์และกระดูกหัก: จากการถูกซากอาคารพังถล่มทับหรือของตกใส่
- โรคระบบทางเดินหายใจ: เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ และโรคหืดที่กำเริบ จากการหายใจเอาฝุ่นละออง ซากตึก หรือเชื้อราจากความชื้นเข้าไป
- โรคผิวหนัง: จากการอยู่ในที่พักอาศัยที่แออัดและไม่สะอาด เช่น โรคผิวหนังอักเสบ เชื้อรา กลากเกลื้อน หรือแม้แต่หิด
- โรคตาอักเสบ: จากฝุ่นละอองที่เข้าตา
2. โรคติดต่อจากน้ำและอาหารที่ปนเปื้อน
เมื่อระบบสาธารณูปโภคล่ม น้ำสะอาดและสุขอนามัยก็กลายเป็นของหายาก ทำให้โรคต่าง ๆ ระบาดง่าย เช่น
- อุจจาระร่วงเฉียบพลัน
- บิด ไทฟอยด์ และอหิวาตกโรค
- ไวรัสตับอักเสบเอและอี
- อาหารเป็นพิษจากเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิ
3. โรคจากสัตว์พาหะและการอยู่รวมกันอย่างแออัด
- ไข้เลือดออก มาลาเรีย: เนื่องจากมีน้ำขังจากท่อแตกหรือฝนตก ทำให้ยุงเพาะพันธุ์
- โรคฉี่หนู (Leptospirosis): ภัยเงียบจากน้ำท่วมและพื้นดินชื้นแฉะ
- ไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19: จากการอยู่รวมกันอย่างหนาแน่นโดยไม่มีการเว้นระยะห่างและระบบระบายอากาศที่ดี
- วัณโรค: เสี่ยงสูงขึ้นในกลุ่มคนไร้บ้านและเด็กในศูนย์อพยพ
4. โรคเรื้อรังที่ถูกละเลย
ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคไต ที่ต้องการยาหรือการรักษาต่อเนื่อง มักได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนยา อุปกรณ์ หรือคลินิกให้บริการ ส่งผลให้โรคกำเริบและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย
5. สุขภาพจิต: ภัยเงียบที่ยากจะเยียวยา
ความตกใจ ความเศร้า และความรู้สึกสูญเสียอาจนำไปสู่
- ภาวะเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD)
- ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ
- พฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้สารเสพติด การทำร้ายตนเอง หรือความรุนแรงในครอบครัว
แผ่นดินไหวจึงไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนโลกภายนอกแต่คือบททดสอบที่ท้าทายโครงสร้างสุขภาพของมนุษย์ในทุกมิติ