อาการอ่อนเพลีย หรือ Fatigue อาการแสดงถึงความรู้สึกเหนื่อยล้าไม่สดชื่น ไม่มีแรง ทำให้ ร่างกายอ่อนเพลีย และรู้สึกขาดแรงจูงใจในการทำงาน

สาเหตุ

  • โรคประจำตัว เช่น เลือดจาง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ไทรอยด์ โรคตับ โรคไต โรคมะเร็ง ถุงลมโป่งพอง โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ
  • ตั้งครรภ์
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • ความเครียด ซึมเศร้า
  • ขาดสารอาหาร
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ทำงานหนัก
  • โรคอ้วน
  • ใช้ยารักษาโรคบางอย่าง เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยารักษาอาการซึมเศร้า และยากล่อมประสาท
  • ผู้สูงอายุ
  • อื่นๆ

จะเห็นได้ว่าภาวะอ่อนเพลีย มีสาเหตุ หลากหลาย ซึ่งต้องมีการตรวจวิเคราะห์ถึงความผิดปกติทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ไปพร้อมๆกัน  เพื่อจัดการให้เหมาะสมและถูกต้องกับปัญหาของแต่ละบุคคล

การตรวจสุขภาพประจำปี จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ที่จะช่วยวิเคราะห์ค่าความปกติ ทางด้านร่างกาย เพื่อแยกสาเหตุของความอ่อนเพลีย จากโรคทางกายได้เป็นอย่างดี โดยที่ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับรับคำแนะนำในการเลือกรายการตรวจสุขภาพ ให้เหมาะสมกับ ช่วงอายุ และ ปัญหาต่างๆ

นอกจากปัญหาภาวะสุขภาพทางกายที่เป็นสาเหตุในอาการอ่อนเพลียแล้ว หากตรวจไม่พบความผิดปกติ เมื่อไหร่ ที่ควรปรึกษานักจิตบำบัด หรือจิตแพทย์

  1. ด้านอารมณ์
  • มีความกังวลทุกข์ใจ และรู้สึกซึมเศร้า ตลอดเวลา
  • หวาดระแวง ในทุกๆ เรื่อง มีอารมณ์หงุดหงิด มากผิดปกติ
  • เครียด อยู่ตลอดเวลา
  • มีความรู้สึก กระวนกระวายใจ และอยู่ไม่นิ่ง

 

  1. มีเนื้อหาความคิด ผิดไปจากปกติ
  • ไม่มีสมาธิในการทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆ และหลงลืมมากกว่าผิดปกติ
  • การตัดสินใจหรือ การแก้ไขปัญหาไม่ได้ ในทุกๆ เรื่องแม้แต่ เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
  • ได้ยินเสียงแว่ว หรือ เห็นภาพที่ผู้อื่นไม่เห็น
  • มีความคิดทำร้ายตนเอง และความคิดว่ามีคนมาปองร้าย
  • คิดมาก คิดฟุ้งซ่าน คิดวนแต่เรื่องในอดีต

 

  1. มีสัญญาณเตือนทั้งร่างกายและพฤติกรรม
  • ปล่อยตัว แยกตัว ไม่พบปะผู้คนเหมือนเคย ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว
  • นอนไม่หลับ หรือ อาจนอนมากเกินปกติ
  • เบื่ออาหาร หรือ รับประทานอาหารมากเกินปกติ
  • ใช้จ่าย ฟุ่มเฟื่อย ใช้จ่ายโดยไม่ยั้งคิด
  • ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่มาก หรือใช้ยาเสพติด

 

การป้องกันอาการอ่อนเพลีย

อาการอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นทั่วไป ซึ่งไม่มีความรุนแรง ป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ที่เหมาะสม ไม่หนักจนเกินไป 30-60 นาที / วัน อย่างน้อย 2-3 ครั้ง / สัปดาห์
  • รับประทานอาหารอาหารครบ 5 หมู่ สุข สะอาด ปรุงใหม่
  • ดื่มน้ำอย่างพอเหมาะ ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ 1-2 ลิตร / วัน ตามความเหมาะสมของแต่ละคน
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชม./วัน
  • หากเกิดปัญหาทางอารมณ์ ควรเผชิญหน้าและแก้ไข้ปัญหา ไม่ควรเพิกเฉยและหนีปัญหา อาจปรึกษาคนใกล้ชิดเพื่อขอความช่วยเหลือในการแก้ปัญหา
  • ทำกิจกรรมสันทนาการ หาทางจัดการกับความเครียด
  • ทำงานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ทำงานหนักจนเกินไป
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และยาเสพติดทุกชนิด

ในบางครั้ง หลังจากการปฏิบัติตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นแล้ว แต่อาการอ่อนเพลีย ยังไม่ทุเลา และพบว่าปัญหายังคงอยู่ จึงมีความจำเป็นในการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ของอาการดังกล่าวเพื่อจัดการได้อย่างเหมาะสม