คุณพ่อหรือคุณแม่อาจจะสงสัยว่า เอ..เมื่อไหร่เราถึงจะพาลูกน้อยไปพบหมอฟัน ต้องรอให้ฟันขึ้นครบก่อน หรือรอให้โตก่อนถึงค่อยพาไป?
ที่จริงแล้ว เราสามารถพาเจ้าตัวน้อยไปพบหมอฟันสำหรับเด็ก หรือทันตแพทย์สำหรับเด็กได้ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น คำถามต่อมาคือ พาไปตั้งแต่ลูกยังเล็กแล้วคุณหมอฟันจะทำอะไรได้หรือ ก่อนอื่นคงต้องมาปรับจูนความคิดของคุณพ่อและคุณแม่กันใหม่ก่อน ปัจจุบันการไปพบหมอฟัน ไม่ใช่แต่เพียงว่าจะไปอุดฟัน หรือถอนฟันเมื่อเกิดโรคเท่านั้น แต่ควรไปตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ และเรียนรู้วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุ และโรคในช่องปากอื่นๆ
ดังนั้น เราจึงควรที่จะเริ่มต้นสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับลูกน้อยตั้งแต่ที่เขามีฟัน ซี่แรกขึ้นมา โดยการแปรงฟันให้กับลูก เป็นการสร้างนิสัยความเคยชินกับการมีช่องปากสะอาด และเด็กก็จะคุ้นเคยกับการที่คุณพ่อหรือคุณแม่ใช้เครื่องมือในการเข้าไปทำ ความสะอาดช่องปากและฟันในที่สุด
การแปรงฟัน ควรใช้แปรงขนาดเล็กตามช่วงอายุ ขนแปรงไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป เพราะหากแข็งเกินไปจะเจ็บเหงือก หากอ่อนเกินไปจะทำให้ขจัดคราบฟันออกยาก แปรงให้เด็กวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและก่อนนอน ท่าแปรงฟันคือ ให้เด็กนอนตักผู้ปกครอง หันหน้าไปทางเดียวกัน และผู้ปกครองแปรงฟันให้ในตำแหน่ง 12 นาฬิกา เป็นท่าที่จะเห็นบริเวณที่แปรงได้ง่าย และเด็กจะอยู่ในท่าที่สบาย
ปริมาณยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ในเด็กที่ยังควบคุมการกลืนไม่ได้ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด ฟันตกกระ (fluorosis) ผู้ปกครองควรบีบยาสีฟันแตะปลายขนแปรงเป็นจุดเล็กๆ 1 จุด และเช็ดฟองออกทันทีด้วยผ้าชุบน้ำหลังแปรงเสร็จ เด็กอายุ 2-5 ขวบ ใช้ยาสีฟันขนาดเม็ดถั่วลันเตา และเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป ใช้ขนาดเต็มหน้าตัดแปรง การแปรงฟันใช้วิธีขยับแปรงไปมาสั้นๆ ในแนวนอน แปรงให้ทั่วทุกด้านของฟัน ใช้นิ้วมืออีกข้างหนึ่งช่วยแหวกกระพุ้งแก้มและริมฝีปากเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน
ที่สำคัญคุณพ่อหรือคุณแม่ควรแปรงฟันให้กับลูกจนกระทั่งอายุประมาณ 6 ขวบ หรือจนกว่าจะแปรงฟันเองสะอาด เพียงเท่านี้ลูกของคุณก็จะมีรอยยิ้มสดใสตลอดไป หากยังมีข้อสงสัยอื่นๆ สามารถปรึกษาทันตแพทย์สำหรับเด็กใกล้บ้านท่าน
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน โดย ทญ. วรรณกร ศรีอาจ