การที่อายุมากขึ้นเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง รวมถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคบางชนิดที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องสุขภาพของผู้สูงอายุจากโรคต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายได้ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่มีความเสี่ยงเมื่ออายุมากขึ้น วัคซีนที่แนะนำ ข้อห้ามในการฉีดวัคซีน และการเตรียมตัวก่อนรับวัคซีน
ตัวอย่างโรคที่มีความเสี่ยงเมื่ออายุมากขึ้น
- โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ เช่น ปอดอักเสบ
- โรคปอดบวม (Pneumonia) เป็นโรคที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงในปอด และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในผู้สูงอายุได้
- โรคงูสวัด (Shingles) เกิดจากไวรัส Varicella-Zoster ซึ่งอยู่ในร่างกายตั้งแต่วัยเด็กและกลับมาก่อโรคเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ
วัคซีนที่แนะนำให้ผู้สูงอายุฉีด
- วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ควรฉีดวัคซีนทุกปี โดยเฉพาะช่วงก่อนฤดูฝนและฤดูหนาว
- วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม วัคซีน PPSV23 และ PCV13 เป็นวัคซีนที่แนะนำให้ผู้สูงอายุฉีดเพื่อป้องกันโรคปอดบวม
- วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด วัคซีน Shingrix เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัดและลดความรุนแรงของโรค
ข้อห้ามในการฉีดวัคซีนของผู้สูงอายุ
- การแพ้วัคซีนในอดีต ผู้ที่เคยมีปฏิกิริยาการแพ้รุนแรงจากการฉีดวัคซีนควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนชนิดนั้น
- ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรืออยู่ระหว่างการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดวัคซีน
- อาการป่วยเฉียบพลัน หากผู้สูงอายุมีอาการป่วยเฉียบพลัน เช่น ไข้สูง ควรรอให้อาการหายดีก่อนฉีดวัคซีน
การเตรียมตัวก่อนรับวัคซีนของผู้สูงอายุ
- ปรึกษาแพทย์ ก่อนการฉีดวัคซีน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพและรับคำแนะนำเกี่ยวกับวัคซีนที่เหมาะสม
- ตรวจสอบประวัติการแพ้ยาและวัคซีน แจ้งประวัติการแพ้ยาและวัคซีนให้แพทย์ทราบ เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาแพ้
- ดื่มน้ำเพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอ การดื่มน้ำและพักผ่อนเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฉีดวัคซีน
การป้องกันตนเองด้วยการฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงในผู้สูงอายุ ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของแพทย์และปฏิบัติตัวตามข้อควรระวังเพื่อสุขภาพที่ดีในวัยเกษียณ