ตุ่ม ไฝ หรือแม้แต่รอยเล็ก ๆ เป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของการนำไปสู่โรคร้ายอย่าง มะเร็งผิวหนัง ได้

#มะเร็งผิวหนัง คือมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคนเมื่อเซลล์ผิวหนังเจริญเติบโต และมีการแบ่งตัวที่ผิดปกติ จนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งถ้าเราได้รับการรักษาไม่ทัน เซลล์มะเร็งตัวนี้ก็จะแพร่ไปยังเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้ด้วย

ดังนั้นเมื่อมีตุ่มนูน ตุ่มเนื้อ ไฝที่ผิดปกติ หรือแผลเรื้อรังที่ไม่หายภายใน 1 เดือน หากมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีขนาดโตขึ้นเร็ว สีของตุ่ม ไฝ หรือแผลเปลี่ยนไป ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจเพราะอาจมีความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังได้

 

#สัญญาณเฝ้าระวังโรคมะเร็งผิวหนัง

โรคมะเร็งผิวหนังเป็นเนื้อร้ายที่เกิดบนผิวหนังและเยื่อบุชั้นผิวหนังใน เป็นการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ

มะเร็งผิวหนังมีหลายชนิด ทั้งบริเวณผิวหนังชั้นนอก ผิวหนังชั้นใน และเม็ดสีเมลานิน

 

#ปัจจัยที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง อันดับแรกก็คือ รังสี Ultra Violet ทั้ง UVA และ UVB ซึ่งร้ายแรงและเลี่ยงยากสุดๆ โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลาย นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน แล้วยังต้องเจอแดดเช้าแดดเที่ยงเข้าไปอีก ต่อมาคือกรรมพันธุ์และเชื้อชาติ เพราะจากการศึกษาพบว่าคนผิวขาวมีความทนแดดน้อยกว่าคนผิวสี และมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งผิวหนังสูงกว่า

 

#อาการของโรคมะเร็งผิวหนัง

เริ่มแรกจะมีอาการคัน มีแผลตกสะเก็ด หรือมีขุยขาวๆ ตรงบริเวณผิวหนังที่โดนแสงแดดเป็นประจำ เช่น ใบหน้า แขน และหลังมือ หรือถ้าผิวบริเวณริมฝีปากล่างแห้งมากจนตกสะเก็ด ก็เป็นสัญญาณเตือนได้เหมือนกัน บางรายอาจเจอตุ่มนูน ที่ทั้งหนาทั้งแข็ง และรอบๆ ตุ่มเป็นสีแดง สำหรับคนที่มีแผลอยู่ก่อนแล้ว หากมีเชื้อมะเร็งเกิดขึ้นก็จะทำให้กลายเป็นแผลเรื้อรัง ที่รักษายังไงก็ไม่หาย ส่วนคนที่มีไฝหรือขี้แมลงวัน ก็ให้สังเกตดีๆ ว่ารูปร่าง สี หรือขนาดเปลี่ยนไปจากเดิมหรือเปล่า

สำหรับมะเร็งผิวหนังในระยะที่รุนแรง เชื้อมะเร็งอาจจะลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง และเข้าสู่กระแสเลือดได้

 

#การดูแลตัวเอง

1.ไม่ควรให้ผิวหนังโดนแดดจนไหม้เกรียม หากต้องออกไปอยู่กลางแดด ให้สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด หมวกที่มีปีกกว้าง หรือใช้ร่มที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้

2.สังเกตุความเปลี่ยนแปลงของหูด ไฝ ปาน

3.ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 20-30 นาที และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง

4.ลดการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสควันทุกชนิด

5.ดื่มน้ำให้ได้ 8-10 แก้ว ในแต่ละวัน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นให้ผิว

6.แผลเรื้อรังที่ผิวหนังแล้วรักษาไม่หายในสองสัปดาห์ ควรพบแพทย์