หูน้ำหนวก (Otitis media) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กโดยเฉพาะ แต่สามารถพบได้ในผู้ใหญ่บางรายด้วยความถี่ต่ำกว่าเด็กโดยทั่วไป โดยหูน้ำหนวกเกิดจากการติดเชื้อในหูกลาง ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นหูน้ำหนวกเด็กและหูน้ำหนวกผู้ใหญ่ได้ดังนี้ การติดเชื้อ หูน้ำหนวกสามารถเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส โดยทั่วไปแล้วจะเกิดจากเชื้อ Streptococcus pneumoniae, Haemophilus influenzae, หรือ Moraxella catarrhalis ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ในท่อเอียงหู (Eustachian tube) และเข้าสู่หูกลางได้เมื่อมีการอักเสบหรือทางการหูเสียหาย ทำให้เชื้อเข้าสู่หูได้ง่ายขึ้น

ผู้ที่มีความเสี่ยง

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นหูน้ำหนวก (otitis media) ได้แก่

  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี – เด็กในกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงกว่าเพราะท่อเอียงหูยังไม่แข็งแรงพอที่จะป้องกันเชื้อจากการเข้าสู่หูกลางได้ดีพอ
  • เด็กที่ได้รับการป้องกันด้วยวัคซีนไม่เพียงพอ – การฉีดวัคซีนเช่น PCV13 (วัคซีนป้องกันโรคหลอดลมอักเสบ) ช่วยลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากเชื้อบางชนิดที่เป็นสาเหตุของหูน้ำหนวก
  • ผู้ที่มีปัญหาทางการหายใจหรือการดูแลสุขภาพเฉพาะเจาะจง – เช่น ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจ
  • คนทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการประสานงานอยู่เป็นประจำ – เช่น คนทำงานในโรงเรียนหรือที่ทำการในที่ที่มีเด็กเยอะ หรือที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีควันหมอกหรือสิ่งสกปรกในอากาศ

การป้องกันหูน้ำหนวก

การป้องกันหูน้ำหนวกสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • การฉีดวัคซีน – การฉีดวัคซีน PCV13 (วัคซีนป้องกันโรคหลอดลมอักเสบ) ในเด็กช่วงแรกเกิด ช่วยลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากเชื้อบางชนิดที่เป็นสาเหตุของหูน้ำหนวกได้
  • การดูแลเอาใจใส่เรื่องความสะอาด – รักษาความสะอาดของหูและร่างกายโดยรอบ เช่น การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ หรือการใช้ครีมเจลทำความสะอาดมือเมื่อต้องการใช้งาน
  • การเฝ้าระวังสภาพแวดล้อม – หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหูได้ง่าย เช่น การหายใจอากาศที่มีควันหมอกหรือสิ่งสกปรกมาก

การรักษาหูน้ำหนวก

การรักษาหูน้ำหนวก (otitis media) สามารถแบ่งเป็นการรักษาที่ใช้ยาและกระบวนการทางการแพทย์ได้ดังนี้

  • การใช้ยาต้านเชื้อ – ใช้ในกรณีที่หูน้ำหนวกเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส แพทย์อาจสั่งให้ใช้ยาต้านเชื้อที่เหมาะสม เช่น อะม็อกซิซิลลิน, อะม็อกลาวิค, หรือซัลฟาตริมิโซล
  • ยาแก้ปวด – เช่น พาราเซตามอลหรืออนุมูลอิบูโพรเฟน ช่วยลดอาการปวดในหู
  • ยาลดการอักเสบ – บางครั้งอาจจำเป็นต้องใช้ยาสเตรอยด์ เพื่อช่วยลดการอักเสบในหู
  • การดูแลเอาใจใส่เรื่องความสะอาด – ควรรักษาความสะอาดของหูและรอบๆ โดยป้องกันการเข้าสัมผัสเชื้อสาเหตุจากการหยิบของเล็กๆ ออกจากหู

กระบวนการทางการแพทย์

  • การระบายของเหลว – ในบางกรณีที่เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับการระบายของเหลวจากหู แพทย์อาจต้องทำการระบายเหลวออกจากหูเพื่อช่วยในการรักษา
  • การผ่าตัด – หากมีภาวะหูน้ำหนวกที่รุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา แพทย์อาจพิจารณาให้ผ่าตัดเพื่อรักษาโดยทำการตัดเปลือกหูเพื่อช่วยในการระบายของเหลวและลดอักเสบในหูเกินไป