อัณฑะ คืออวัยวะสำคัญของระบบสืบพันธุ์เพศชายที่มีหน้าที่สร้างอสุจิและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เมื่อเกิดอาการปวดจุกบริเวณนี้ ไม่ว่าจะด้านซ้ายหรือขวา ล้วนเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาหลากหลาย ตั้งแต่ภาวะเล็กน้อย ไปจนถึงอันตรายร้ายแรงที่ต้องรีบพบแพทย์
อาการปวดบริเวณอัณฑะอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การบาดเจ็บเฉียบพลัน การอักเสบของอัณฑะหรือหลอดนำอสุจิ การติดเชื้อ หรือภาวะบิดของอัณฑะซึ่งเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ หากปล่อยไว้นานอาจทำให้เนื้อตายได้ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น ไส้เลื่อน นิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรือแม้กระทั่งความเครียดที่ส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ
แม้ว่าอาการปวดจะเกิดได้ทั้งสองด้าน แต่บางสาเหตุอาจพบเฉพาะฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากกว่า
อาการปวดฝั่งซ้ายมักเกิดจากเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะ (Varicocele) ซึ่งเป็นภาวะที่หลอดเลือดดำในถุงอัณฑะขยายตัวผิดปกติ พบได้บ่อยทางด้านซ้ายมากกว่าด้านขวา เนื่องจากหลอดเลือดฝั่งซ้ายต้องส่งเลือดย้อนขึ้นไปยังหัวใจผ่านทางหลอดเลือดที่ยาวกว่าและมีแรงดันสูงกว่า จึงเกิดการคั่งของเลือดได้ง่ายกว่า ทำให้รู้สึกปวด หน่วง หรือหนัก ๆ โดยเฉพาะเมื่อยืนนานหรือออกแรง
นอกจากนี้ การติดเชื้อ เช่น การอักเสบของหลอดนำอสุจิ (epididymitis) ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งสองข้าง แต่บางครั้งฝั่งซ้ายก็พบได้บ่อยกว่าจากโครงสร้างทางกายวิภาค
อาการปวดฝั่งขวาอาจบ่งบอกไส้เลื่อนขาหนีบ (Inguinal hernia) ซึ่งมักเกิดฝั่งขวาบ่อยกว่า เพราะช่องในร่างกายฝั่งขวามีแนวโน้มเปิดมากกว่าในบางคน ไส้เลื่อนทำให้อวัยวะภายในเคลื่อนออกมายังบริเวณขาหนีบและถุงอัณฑะ ทำให้รู้สึกปวดหรือบวม
อีกภาวะที่ต้องระวังคือบิดอัณฑะ (Testicular torsion) ซึ่งเกิดได้ทั้งสองข้าง แต่หากเกิดเฉพาะข้างใดข้างหนึ่ง และมีอาการปวดเฉียบพลันรุนแรงร่วมกับอัณฑะบวมแดง คลื่นไส้ หรือเวียนหัว ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะเป็นภาวะฉุกเฉินที่อาจทำให้อัณฑะขาดเลือดและเนื้อตายได้
หากอาการปวดเกิดขึ้นเฉียบพลัน รุนแรง หรือมีอาการร่วม เช่น บวม แดง คลื่นไส้ หรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นภาวะเร่งด่วน เช่น บิดอัณฑะ ซึ่งต้องรักษาภายในไม่กี่ชั่วโมง หากปล่อยไว้อาจสูญเสียอวัยวะถาวรได้
อาการปวดอัณฑะไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา ล้วนมีความหมายและสาเหตุที่แตกต่างกัน การสังเกตตำแหน่ง ระยะเวลา ความรุนแรง และลักษณะของอาการ จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ถูกต้องมากขึ้น การรับรู้ถึงสัญญาณเตือนของร่างกายและรีบตรวจเช็กจึงเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพเพศชายให้ปลอดภัยและยืนยาว