โรคไข้กาฬหลังแอ่น เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลัง เชื้อนี้พบในลำคอของคนปกติโดยไม่ทำให้เกิดโรคประมาณร้อยละ 5 ผู้ติดเชื้อส่วนน้อยเท่านั้นที่เกิดอาการของโรคแต่มีความรุนแรงและอัตราตายสูง พบได้ประปรายตลอดทั้งปี และมีการระบาดในบางพื้นที่เป็นครั้งคราว

 

ระยะฟักตัวของโรคไข้กาฬหลังแอ่น

ประมาณ 2-10 วัน โดยเฉลี่ย 3-4 วัน

 

ระยะเวลาการแพร่เชื้อของโรคไข้กาฬหลังแอ่น

ผู้ที่เป็นพาหะ ( ตรวจพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ ) และผู้ป่วย จะสามารถแพร่เชื้อได้จนกว่าตรวจไม่พบเชื้อในน้ำมูก น้ำลาย โดยส่วนใหญ่เชื้อจะหมดไปจากโพรงจมูกทางด้านหลัง (Nasopharynx) ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม

 

วิธีการติดต่อของโรคไข้กาฬหลังแอ่น

โรคนี้ติดต่อทางละอองฝอยจากน้ำมูก น้ำลาย หรือจากสารคัดหลั่งต่างๆ จากการสัมผัสใกล้ชิด ผ่านทางระบบทางเดินหายใจ เชื้อนี้ทำให้เกิดโรคในลักษณะต่างๆ ดังนี้

  • ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย เชื้อเจริญบริเวณโพรงจมูกด้านหลัง (Nasopharynx) ทำให้เกิดการอักเสบเฉพาะที่เล็กน้อยมักไม่มีอาการ ส่วนใหญ่พบในกลุ่มนี้มาก
  • แบบเชื้อแพร่เข้าทางกระแสเลือดหรือเลือดเป็นพิษ (Meningococcemia)
  • เชื้อเข้าในกระแสเลือด โดยเลือดจะมาหล่อเลี้ยงที่ปลายหลอดเลือดเป็นจำนวนมาก ผู้ป่วยจะมีผื่น เลือดออกตามผิวหนัง ในรายที่รุนแรงจะมีเลือดออกในลำไส้และต่อมหมวกไต
  • เชื้อเข้าที่เยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดอาการเยื้อหุ้มสมองอักเสบ

 

อาการเตือนของโรคไข้กาฬหลังแอ่นที่ควรรีบพบแพทย์

มีไข้สูงทันที ปวดศีรษะอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง อาจมีผื่นแดง จ้ำเลือด ขึ้นตามผิวหนังร่วมด้วย และอาจเกิดภาวะช็อกอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่มาด้วยอาการสำคัญ 3 อย่าง คือ

  • อาการเฉียบพลัน จะมีอาการปวดศีรษะ เจ็บคอ ไอ ตามด้วยไข้สูง หนาวสั่น ปวดตามข้อ และตามกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะที่ขาจะมีผื่นแดงจ้ำขึ้นตามตัวใน 2-3 วันต่อมา และเปลี่ยนเป็นสีคล้ำจนเป็นสะเก็ดสีดำ บางทีเป็นตุ่มน้ำจะมีจุดแดงอยู่ตรงกลาง ส่วนใหญ่จะมีผื่นหลังไข้ขึ้น 24- 48 ชั่วโมง
  • อาการเรื้อรัง พบได้น้อย  ส่วนใหญ่มีไข้ ผื่นขึ้นตามผิวหนัง อาจเป็นผื่นแดงจ้ำ ปวด และเจ็บข้ออยู่เป็นเดือน ไข้จะเป็นๆหายๆ
  • อาการรุนแรง ระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน อาจช็อกถึงเสียชีวิตได้  ส่วนมากเริ่มมีอาการไข้สูงทันที อ่อนเพลียมากแล้วเสียชีวิตรวดเร็ว เนื่องจากหลอดเลือดตีบทั่วร่างกาย มักจะไม่มีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เพราะเป็นระยะสั้นๆแล้วเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
  • การป้องกันของโรคไข้กาฬหลังแอ่น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งจากปากหรือจมูกของผู้ป่วยหรือพาหะ
  • หลีกเลี่ยงการอยูในที่แออัด เช่น โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง เป็นต้น
  • การฉีดวัคซีนป้องกัน

 

วัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น

วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่นที่มีในประเทศไทยสามารถป้องกันโรคได้ 4 สายพันธุ์คือ A,C, Y, W-135แต่ในประเทศไทยสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดคือสายพันธุ์ B ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวัคซีน ดังนั้นเมื่อเกิดการระบาดของโรคจาก 4 สายพันธุ์ที่มีวัคซีนป้องกัน ควรฉีดวัคซีนในกรณีต่อไปนี้

  • ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ  มีโรคนี้เป็นโรคประจำถิ่น เช่น ประเทศในทวีปแอฟริกา หรือประเทศในตะวันออกกลาง เป็นต้น โดยฉีดก่อนการเดินทางอย่างน้อย 10 วัน
  • วัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นแบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ได้แก่
  • วัคซีนชนิดโปลิแซคคาไรด์  มีชื่อการค้าว่าMenomuneประกอบด้วยสารสกัดบริสุทธิ์ของแคปซูลของเชื้อไข้กาฬหลังแอ่น โดยสกัดจากเชื้อ 4 ชนิด ได้แก่ A, C, Y และ W-135 วัคซีนชนิดนี้ใช้ได้ผลดี และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไข้กาฬหลังแอ่นชนิด A และ C ในเด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปี และในผู้ใหญ่ ส่วนภูมิคุ้มกันสำหรับเชื้อไข้กาฬหลังแอ่นชนิด C ในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ไม่ดีเท่าใดนัก และวัคซีนชนิดโปลิแซคคาไรด์ไม่ได้ผลชัดเจนในเชื้อไข้กาฬหลังแอ่นชนิด Y และW-135 สำหรับทุกช่วงอายุ
  • วัคซีนชนิดคอนจูเกต เป็นวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่นชนิดใหม่ที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ยาวนานขึ้น มีชื่อการค้าว่าMenactra ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Sanofi Pasteur สร้างขึ้นโดยรวมส่วนของโปรตีนเข้ากับโปลิแซคคาไรด์ ซึ่งเป็นแคปซูลของเชื้อไข้กาฬหลังแอ่น 4 ชนิด ได้แก่ A, C, Y และ W-135 ให้ใช้ได้เพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้กาฬหลังแอ่นในบุคคลที่มีอายุระหว่าง 2-55
  • วัคซีนใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนังในชนิดโพลีแซคคาไรด์ และฉีดเข้ากล้ามเนื้อในชนิดคอนจูเกต 1 ครั้ง

 

คนกลุ่มไหนไม่ควรรับวัคซีน หรือควรเลื่อนการรับวัคซีนไปก่อน

  • เคยมีปฏิกิริยารุนแรงต่อวัคซีนนี้มาก่อน แพ้ส่วนประกอบของวัคซีน แพ้สารลาเท็ค (latex) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของภาชนะบรรจุวัคซีน
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งได้รับยาเคมีบำบัด ฉายแสง ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการเต็มขั้นหรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน

 

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น

หลังจากฉีดวัคซีน อาจมีอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีด และจะหาย ได้เองภายใน 2 – 3 วัน โดยหากมีอาการปวด บวมบริเวณที่ฉีดให้ประคบด้วยผ้าเย็น หากมีไข้ให้รับประทานยาลดไข้  หากมีอาการข้างเคียง เป็นรุนแรง หรือเป็นมาก ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที