กลุ่มอาการอ่อนล้าเรื้อรัง(Chronic fatigue syndrome, CFS)

คือกลุ่มอาการอ่อนเพลียเหนื่อยล้าเรื้อรัง ทำให้มีอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลีย รู้สึกไม่สบายตัว นอนหลับไม่สนิท ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี ปวดเมื่อย ปวดข้อ เจ็บคอ ปวดหัว  อ่อนเพลียทุกวัน จนส่งผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

เกิดขึ้นกับคนทุกวัย แต่พบบ่อยที่อายุ 40-50 ปี เพศหญิงพบมากกว่าชาย

สาเหตุของ CFS

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุ แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกันเช่น การติดเชื้อไวรัสมาก่อน ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ การขาดสมดุลของฮอร์โมน ปัญหาสุขภาพจิต

การวินิจฉัย CFS ตามCDC criteria

จำเป็นจะต้องมี อาการอ่อนเพลียเหนื่อยล้ารุนแรงสะสมนานกว่า 6 เดือน ตามด้วยความเจ็บป่วยจากอาการทางกายอย่างน้อยอีก 4 ข้อ ดังนี้

  1. ความอ่อนเพลียเมื่อยล้าไม่สบายตัว หลังจากทำกิจกรรมหรือมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจเพียงเล็กน้อยและกว่าจะดีขึ้นต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าปกติ
  2. นอนหลับไม่สนิท นอนหลับไม่เต็มอิ่ม ตื่นมาไม่สดชื่น
  3. ความจำไม่ดี/ไม่มีสมาธิ
  4. ปวดกล้ามเนื้อ/ปวดตามข้อโดยที่ไม่มีข้อบวมแดง
  5. เจ็บคอ
  6. เจ็บตามต่อมน้ำเหลืองโดยที่คลำต่อมน้ำเหลืองแล้วไม่โต
  7. อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นใหม่

การวินิจฉัยโรคใช้อาการทางคลินิกมาช่วยวินิจฉัย รวมทั้งต้องตัดสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เกิดความอ่อนเพลียออกไปด้วย เมื่อพยายามหาสาเหตุของอาการอ่อนเพลียในโรคทางกายและทางจิตที่จะเป็นไปได้แล้วยังไม่พบจึงวินิจฉัย CFS

การวินิจฉัยแยกโรคของ CFS

  1. โรคระบบต่อมไร้ท่อ เช่น Addison disease Adrenal sufficiency Cushing diseaseเบาหวาน ไทรอยด์
  2. โรคเลือด/มะเร็ง
  3. โรคติดเชื้อ : ไวรัสตับอักเสบ เอดส์ วัณโรค
  4. โรคระบบประสาท
  5. โรคทางจิตเวท : โรคไบโพล่า โรคซึมเศร้า โรคจิตเภท
  6. โรคทางรูมาโต : โรคกล้ามเนื้ออักเสบ รูมาตอยด์ แพ้ภูมิตัวเอง

การรักษา CFS

ยังไม่มีวิธีรักษากลุ่มอาการนี้โดยเฉพาะ การรักษาจึงเป็นเพียงการควบคุมและบรรเทาอาการ ที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยแต่ละคน

การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavior Therapy) จะช่วยให้เปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม รวมทั้งเข้าใจสิ่งที่เป็นอยู่ รู้สึกว่าตัวเองควบคุมอาการได้ เข้าใจอารมณ์และพฤติกรรมของตัวเองที่แสดงออกมาต่อสภาวะบางอย่างได้ดีขึ้น

การออกกำลังกาย จะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางกาย และเพิ่มความทนต่อกิจกรรมต่างๆและลดความเหนื่อยล้าลงได้

การใช้ยารักษาโรค รักษาตามอาการเพื่อบรรเทาอาการ ยาที่ใช้เช่น ยารักษาภาวะซึมเศร้า ยานอนหลับ ยาลดอาการปวด

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับพฤติกรรมการนอน การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงการเรื่องการพักผ่อน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียดีขึ้น

โดย พญ. สริดา เลาหพันธุ์สวัสดิ์ อายุรแพทย์โรคข้อและรูมาติสซั่ม