461

 

กรมการแพทย์ เผยผู้สูงวัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อนิวโมคอคคัส แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโรคปอดบวมและไข้หวัดใหญ่ เพื่อสร้างเกราะป้องกันร่างกายก่อนเชื้อร้ายจะก่อโรครุนแรง

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เชื้อนิวโมคอคคัส คือเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอของคน โดยเชื้อสามารถแพร่กระจายสู่บุคคลอื่นได้เหมือนโรคไข้หวัด โดยการ ไอ สิ่งสำคัญที่เป็นตัวการในการทำให้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักมาจากมือ ดังนั้นการล้างมือบ่อยๆ จะเป็นการป้องกันได้อีกทางหนึ่ง

 

อันตรายของเชื้อนิวโมคอคคัส

โรคไข้หวัดใหญ่และโรคปอดบวม เกี่ยวข้องกับเชื้อนิวโมคอคคัสเนื่องจากผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนิวโมคอคคัสซ้ำซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ แนะนำให้ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุควรได้รับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคนิวโมคอคคัสเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่

 

กลุ่มเสี่ยงโรคปอดบวม และไข้หวัดใหญ่

แพทย์หญิงวิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่อาจเสี่ยงเป็นโรคปอดบวมจากเชื้อนิวโมคอคคัส มีดังนี้

1 อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี

2 เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคปอดหรือโรคไต

3 ผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายอวัยวะ

4 ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี

5 โรคมะเร็ง

6 ภาวะม้ามไม่ทำงานหรือไม่มีม้าม

7 ใส่ชุดประสาทหูเทียม

8 น้ำไขสันหลังรั่ว

9 สูบบุหรี่

10 โรคพิษสุราเรื้อรัง  เป็นต้น

 

อาการของโรคปอดบวม

สามารถสังเกตอาการของโรคปอดบวมได้ เช่น มีไข้ ไอ รู้สึกหนาวสั่น เจ็บหน้าอกหรือหายใจลำบาก

 

วิธีป้องกันโรคปอดบวม

1 ล้างมือให้สะอาด

2 หลีกเลี่ยงชุมชนแออัด

3 สวมหน้ากากอนามัย

4 ปิดปาก และจมูกเวลาไอหรือจาม

5 ควรสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อนิวโมคอคคัสในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคต่างๆ ของร่างกายเสื่อมถอยลง ทำให้มีโอกาสติดเชื้อนิวโมคอคคัสง่ายกว่าเมื่อเทียบกับคนวัยหนุ่มสาว

 

ดังนั้นการเสริมภูมิคุ้มกันก่อนการติดเชื้อจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เสมือนการสร้างเกราะป้องกันให้กับร่างกายก่อนเชื้อร้ายจะก่อโรครุนแรง

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข