แมมโมแกรม (Mammogram) เป็นการตรวจเต้านมด้วยรังสีเอกซเรย์พิเศษที่สามารถตรวจหาก้อนเนื้อผิดปกติ หรือแคลเซียมสะสมที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งเต้านมตั้งแต่ระยะแรก ๆ แม้จะยังไม่มีอาการ

ความน่าเชื่อถือของแมมโมแกรม

  • มีความแม่นยำสูง โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากเนื้อเยื่อเต้านมมีความหนาแน่นน้อยลง
  • ตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและโอกาสรอดชีวิตสูงขึ้น
  • อาจมีผลลบลวง (False Negative) หรือผลบวกลวง (False Positive) ในบางกรณี โดยเฉพาะในผู้ที่มีเนื้อเยื่อเต้านมหนา

ใครควรตรวจแมมโมแกรม?

  1. ผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจเป็นประจำ
  2. ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม หรือมีความเสี่ยงสูง
  3. ผู้ที่มีอาการผิดปกติของเต้านม เช่น มีก้อนแข็ง ผิวหนังบุ๋ม มีของเหลวไหลจากหัวนม

การเตรียมตัวก่อนตรวจแมมโมแกรม

  1. หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่น แป้ง หรือโรลออนบริเวณรักแร้และเต้านม เนื่องจากอาจรบกวนภาพเอกซเรย์
  2. ใส่เสื้อผ้าที่สามารถถอดออกจากท่อนบนได้ง่าย
  3. ควรตรวจหลังมีประจำเดือน 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการเจ็บจากการกดเต้านม
  4. แจ้งแพทย์หากกำลังตั้งครรภ์ หรือมีประวัติการทำศัลยกรรมเต้านม

ควรตรวจบ่อยแค่ไหน?

  • อายุ 40-49 ปี แนะนำให้ตรวจทุก 1-2 ปี
  • อายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจทุกปี
  • ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ควรตรวจตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งอาจรวมถึง MRI เต้านมร่วมด้วย

ความปลอดภัยของรังสีจากแมมโมแกรม

  • ปริมาณรังสีที่ใช้ต่ำมาก (0.4 mSv ต่อการตรวจ 1 ครั้ง) ซึ่งถือว่าปลอดภัยและอยู่ในระดับที่ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง
  • ประโยชน์ของการตรวจพบมะเร็งระยะแรกมีมากกว่าความเสี่ยงจากรังสี
  • หากตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ควรแจ้งแพทย์ก่อนตรวจ

โดยรวมแล้ว แมมโมแกรมเป็นการตรวจที่มีประโยชน์มากในการคัดกรองมะเร็งเต้านม สามารถช่วยชีวิตได้หากพบมะเร็งตั้งแต่ระยะแรก ดังนั้น ผู้หญิงที่มีอายุตามเกณฑ์หรือมีปัจจัยเสี่ยงควรเข้ารับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ