เด็ก มักมีเรื่องเจ็บป่วยอยู่เสมอและติดต่อได้ง่าย เราจึงจำเป็นต้องทำความรู้จักโรคในเด็กต่างๆ ถึงลักษณะอาการ เพื่อให้เตรียมรับมือหากเกิดขึ้นกับลูกรักของเรา
เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส อินฟลูเอนซา (Influenza Virus) แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์ใหญ่ๆ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B อาการจะเริ่มปรากฎหลังได้รับเชื้อ 1-4 วันจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เพลีย เจ็บคอ ถ้าป่วยเป็นระยะเวลานานอาจจะมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ อาการจะรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา จะหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาจมีอาการรุนแรง เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ การรักษาคือการให้ยาต้านไวรัส ภายใน 48 ชั่วโมงที่เริ่มอาการ นาน 3-5 วัน
เป็นโรคทางเดินหายใจที่แพร่ในเด็ก ในช่วงฤดุฝนของทุกปี เป้นสาหตุที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในปอดและระบบทางเดินหายใจ อาการจะปรากฏหลังสัมผัสเชื้อ 4-6 วัน ถ้าเป้นเด็กโตที่มีภุมิคุ้มกัน อาการจะคล้ายกับหวัด เช่นมีน้ำมุก ไอแห้ง ไข้ต่ำๆ เจ็บคอ เด็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเป็นโรคปอด และหัวใจ อาจส่งผลให้เกิดอาการรุนแรงทำให้เกิด โรคปอดอักเสบ และหลอดลมอักเสบได้ จะมีอาการ หายใจเร็ว ติดขัด หอบ เสียงวี้ด ใช้กล้ามเนื้อบริเวรหน้าอกในการหายใจ ตัวเขียวเนื่องจากขาด ออกซิเจนได้
เกิดจากเชื้อไวรัส มักพบบ่อยในเด็กเล็ก มักจะมีอาการไม่รุนแรงนัก แต่ก็เป็นโรคที่สร้างความไม่สบายเนื้อสบายตัวให้กับเด็กๆ ได้ จะเกิดตุ่มและผื่นที่ขึ้นตามมือและเท้า มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี พบมากในช่วงฤดูร้อน ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน สามารถป้องกันโรคมือ เท้า ปากได้โดยการหลีกเลี่ยงการให้เด็กใกล้ชิดกับผู้ป่วย รักษาสุขอนามัย ทำความสะอาดมือก่อนหยิบจับอาหาร และรับประทานอาหารที่สุก สะอาด ปรุงใหม่ๆ ไม่มีแมลงวันตอม และดื่มน้ำสะอาด
เป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อยใน อาการของโรคมักจะไม่รุนแรง มีไข้ต่ำๆ ตุ่มขึ้นตามร่างกายยประมาณ 7-10 และหายได้เอง โรคอีสุกอีใสมีวัคซีนป้องกัน หากเป็นขึ้นมาแล้ว สามารถบรรเทาผื่นและตุ่มที่ขึ้นตามร่างกายได้ด้วยการอาบน้ำเย็นและให้ลูกดื่มน้ำมากๆกโดยทั่วไปผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสแล้วมักจะไม่กลับมาเป็นอีก
เกิดจากเชื้อไวรัส มักจะพบได้เสมอในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี แต่มักไม่พบในเด็กอายุต่ำกว่า 6-8 เดือนเนื่องจากยังมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่อยู่ในครรภ์ อาการของโรคมักจะเกิดขึ้น 7-10 วัน จะมีไข้สูง ผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย โรคหัดมีวัคซีนป้องกันแนะนำให้ฉีดเข็มแรกเมื่อเด็กอายุได้ 9-12 เดือน และให้ฉีดเข็มที่ 2 เมื่ออายุได้ 4-6 ปี โดยมากแล้วเด็กที่ป่วยเป็นโรคหัดจะหายได้เองโดยไม่จำเป็นต้องกินยา
เกิดจากเชื้อไวรัส กลุ่ม Enterovirus ชนิดเดียวกับโรคมือเท้าปาก แตกต่างที่อาการของ เฮอร์แปงไจน่า จะเกิดแผลเฉพาะในปากเท่านั้น บริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ คอหอยด้านหลัง มีไข้สุง ติดต่อจากการสัมผัสเสมหะ น้ำมูก น้ำลายที่มีเชื้อ จึงมักระบาดในกลุ่มเด็กอนุบาล ที่ใช้สิ่งของร่วมกัน การรักษายังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสเฉพาะ ใช้วิธีรักษาตามอาการ อาจต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น รับประทานอาหารไม่ได้ หอบเหนื่อย ต้องรีบพบแพทย์