ในโลกที่คนมักแสวงหาความสำเร็จทั้งในด้าน ชื่อเสียง การงาน การเงิน การแข่งขันที่สูงทำให้คนที่อยากประสบความสำเร็จ ต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ แน่นอนว่ากว่าจะไปถึงจุดที่ประสบความสำเร็จต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจเป็นอย่างมาก ในช่วงที่ร่างกายแข็งแรงหนุ่มสาวต่างพากันเร่งทำงานจนบางครั้งอาจหลงลืมในการใส่ใจสุขภาพ ทำงานแข่งกับเวลา ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย อาหาร หรือแม้แต่การจัดการอารมณ์ที่เหมาะสม เราอาจเคยได้ยินคำว่า งานหนักไม่เคยฆ่าใคร แต่การทำงานหนักมากๆอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว การทำงานหนักมีผลต่อสุขภาพทั้งในด้านร่างกายและ จิตใจ ก่อให้เกิดโรคมากมาย ทั้งนี้จะกล่าวถึงโรคทางจิตใจที่เกิดจากการทำงานหนัก

 

  • โรควิตกกังวล

สถิติจากกรมสุขภาพจิตพบคนไทยที่ป่วยด้วยโรควิติกังวลประมาณ1.4แสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สาเหตุมาจากเรื่องพื้นฐานทั่วไปในชีวิต พันธุกรรม การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม และการทำงานก็เป็นอีกสาเหตุเช่นกัน เช่นวิตกกังวลว่างานจะออกมาไม่ดี กลัวเจ้านายไม่พอใจในผลงานจนอาจมีพฤติกรรมแก้งานซ้ำๆหาจุดบกพร่องของงานตลอดเวลาเพื่อจะให้งานออกมาเพอร์เฟกต์ที่สุด

อาการ กังวลมากเกินไป กระวนกระวาย เหงื่อออก ใจเต็นเร็ว ใจสั่น ทำอะไรซ้ำๆ คลื่นไส้อาเจียน มวนท้อง

 

  • ภาวะเครียด

พบได้มากในคนวัยทำงาน ยิ่งทำงานนาน ความรับผิดชอบมากขึ้น ภาระหน้าที่มากขึ้น การแข่งขันในองค์กรมากขึ้น ยิ่งก่อให้เกิดความเครียดความกดดัน ซึ่งภาวะเครียดเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคทางกายต่างๆอีกมากมาย

อาการ คนที่มีความเครียดมากผิดปกติมักมีอาการแสดงออกคือ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง เบื่ออาหาร สมาธิสั้น โกรธง่าย นอนกัดฟัน  นอนไม่หลับ

 

  • โรคซึมเศร้า

ในปัจจุบันเป็นโรคที่เราพบเห็นตามช่องทางสื่อโซเชียลอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากมีดาราหรือคนมีชื่อเสียงหลายคนที่ป่วยด้วยโรคนี้ แน่นอนที่ไม่ใช่ดาราหรือคนมีชื่อเสียงก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้และปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โรคซึมเศร้ามักมีสาเหตุจากความเครียดที่สะสมเป็นระยะเวลานาน ก่อให้เกิดสารเคมีในสมองผิดปกติ จนมีอาการแสงออกที่เศร้ากับชีวิตมากกว่าปกติ จนอาจนำไปสู่ความคิดพยายามฆ่าตัวตาย

อาการ แยกตัว เก็บตัว ท้อแท้ สิ้นหวัง รู้สึกผิดไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง อ่อนเพลีย นอนไม่หลับหรือนอนมากกว่าปกติ  ขาดสมาธิ

 

  • Burnout Syndrome 

เบื่องาน หมดไฟในการทำงาน สาเหตุมาจากการทำงานมากหนักเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ จนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

อาการ อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ อารมณ์ร้าย โกรธง่าย มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือคนที่บ้าน  หมกหมุ่นกับเรื่องงานตลอดเวลาแม้จะไม่ใช่เวลางานแต่กลับส่งผลให้งานไม่มีคุณภาพ ขาดความสุข

 

หากพบว่าเริ่มมีอาการไม่มีความสุขในการทำงาน ควรเริ่มหาทางจัดการตัวเอง ด้วยการหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด ออกกำลังกาย หาเวลาไปสังสรรค์กับเพื่อน พักผ่อนให้เพียงพอ วางแผนและจัดลำดับความสำคัญของชีวิต แต่หากไม่สาเหตุแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพื่อน คนในครอบครัว หรือปรึกษาแพทย์ ก่อนที่จะเกิดอันตรายมากไปกว่านี้