โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder: NPD) เป็นภาวะหนึ่งในกลุ่มโรคบุคลิกภาพ (Personality Disorders) ที่มีลักษณะเฉพาะตัวชัดเจน โดยบุคคลที่มีภาวะนี้มักแสดงออกถึงความยึดมั่นในตนเองอย่างรุนแรง ขาดความเห็นใจผู้อื่น และต้องการการยอมรับหรือชื่นชมจากภายนอกตลอดเวลา แม้จะดูเหมือนมีความมั่นใจสูง แต่ลึกๆ แล้วกลับซ่อนความเปราะบางทางอารมณ์ไว้ภายใน
ลักษณะอาการของโรคหลงตัวเอง
ผู้ที่มีภาวะ NPD มักมีพฤติกรรมและรูปแบบความคิดดังต่อไปนี้
- เชื่อว่าตนเองพิเศษ เหนือกว่าผู้อื่น และสมควรได้รับสิทธิพิเศษ
- ต้องการคำชมอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถทนได้หากไม่ได้รับการยอมรับ
- ขาดความสามารถในการเข้าใจหรือเห็นอกเห็นใจความรู้สึกของผู้อื่น
- มักแสดงพฤติกรรมดูถูกหรือไม่ให้คุณค่าผู้อื่น เพื่อเสริมสร้างคุณค่าของตน
- มีความอ่อนไหวต่อคำวิจารณ์ แม้เพียงเล็กน้อย
- มีความสัมพันธ์ที่ตื้นเขิน และมักมีปัญหาในการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาว
สิ่งสำคัญคือ อาการเหล่านี้ต้องเป็นลักษณะถาวรต่อเนื่องตั้งแต่วัยหนุ่มสาว และส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันจึงจะวินิจฉัยว่าเป็นโรค
สาเหตุของโรคหลงตัวเอง
ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนถึงสาเหตุเดียวของ NPD แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่สัมพันธ์กัน เช่น
- ปัจจัยทางพันธุกรรม: บุคคลที่มีประวัติครอบครัวที่เป็นโรคบุคลิกภาพอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
- การเลี้ยงดูในวัยเด็ก: การที่เด็กได้รับการยกย่องมากเกินไปหรือถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงอาจทำให้พัฒนาการทางอารมณ์บิดเบี้ยว
- สภาพแวดล้อมทางสังคม: วัฒนธรรมที่เน้นความสำเร็จส่วนบุคคล การแข่งขัน และสถานะอาจเป็นแรงเสริมให้เกิดพฤติกรรมแบบหลงตัวเอง
ประเภทของโรคหลงตัวเอง
แม้ในระบบวินิจฉัย DSM-5 จะไม่แบ่ง NPD ออกเป็นชนิดย่อยอย่างเป็นทางการ แต่นักจิตวิทยาบางกลุ่มเสนอว่า NPD อาจจำแนกออกได้เป็น 2 รูปแบบหลัก
- Grandiose Narcissism – บุคลิกภาพแบบยิ่งใหญ่โอ่อ่า แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าตนเองเหนือกว่า มีความมั่นใจสูง มักเป็นผู้นำหรือแสดงตนโดดเด่น
- Vulnerable Narcissism – บุคลิกภาพแบบอ่อนไหวและเปราะบาง แสดงออกน้อย แต่อยู่ในภาวะรู้สึกไม่ปลอดภัย ต้องการการยอมรับภายนอกอยู่เสมอ แม้จะปกปิดไว้ภายนอก
วิธีรับมือของคนรอบข้าง
การอยู่ร่วมกับผู้ที่มีภาวะ NPD อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ดังนั้น คนรอบข้างควรมีวิธีการรับมืออย่างเหมาะสม
- ตั้งขอบเขตที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการถูกควบคุมหรือทำร้ายทางจิตใจ
- ไม่ตอบสนองด้วยอารมณ์ เพราะการโต้เถียงมักทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง
- ให้ความสำคัญกับตนเอง โดยไม่ปล่อยให้ความต้องการของผู้ป่วยกลืนความรู้สึกของตัวเอง
- หลีกเลี่ยงการตำหนิ แต่ใช้การสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อให้เขาตระหนักถึงพฤติกรรม
- ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เมื่อตนเองเริ่มรู้สึกหมดพลังหรือถูกกระทบทางอารมณ์
แนวทางการรักษาโรคหลงตัวเอง
เนื่องจากผู้ป่วย NPD มักไม่ยอมรับว่าตนมีปัญหา การรักษาจึงมักเริ่มจากผลกระทบต่อความสัมพันธ์หรือหน้าที่การงาน
- จิตบำบัดรายบุคคล (Psychotherapy): โดยเฉพาะแนวทางจิตบำบัดเชิงลึก (Psychodynamic therapy) หรือ Cognitive Behavioral Therapy (CBT) ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจตนเองมากขึ้น พัฒนาความเห็นใจผู้อื่น และปรับพฤติกรรม
- การรักษาทางยา: แม้ยังไม่มียาที่รักษา NPD โดยตรง แต่ยาต้านซึมเศร้า วิตกกังวล หรือ mood stabilizers อาจใช้ในกรณีที่มีอาการร่วมอื่นๆ
- การบำบัดแบบกลุ่ม: ช่วยให้ผู้ป่วยฝึกการเข้าสังคมและเห็นความจริงจากมุมมองของผู้อื่น
บทสรุป
โรคหลงตัวเองไม่ใช่แค่เรื่องของนิสัย แต่เป็นความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทั้งผู้ป่วยและคนรอบข้าง การเข้าใจลักษณะอาการ สาเหตุ กลไกทางจิตใจ และแนวทางการรับมือที่เหมาะสม จะช่วยให้สามารถอยู่ร่วมกับบุคคลกลุ่มนี้ได้อย่างมีสุขภาวะ พร้อมทั้งสนับสนุนให้พวกเขาได้รับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์ที่ดีในสังคมต่อไป