ปัจจัยเสี่ยง และสาเหตุของโรค
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น โอกาสเกิดโรคยิ่งสูงขึ้น
- เพศ ผู้ชายมีโอกาสเกิดโรคมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากฮอร์โมนเพศต่างกันหรือจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า ส่วนผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ที่รับประทานยาคุมกำเนิด และสูบบุหรี่ ก็มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจเช่นเดียวกัน
- พันธุกรรม
- ความอ้วน
- ขาดการออกกำลังกาย
- โรคเรื้อรังต่างๆ ได้แก่ โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
- มีปัญหาด้านอารมณ์ และจิตใจ เช่น ความเครียด หรือมีอาการซึมเศร้า
- สูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ
- ยาเสพติดบางชนิด เนื่องจากเพิ่มการหดตัวของหลอดเลือดหัวใจ
อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ
- เจ็บแน่นหน้าอก รู้สึกบีบแน่นตรงกลางอก เจ็บร้าวมายังลำคอ กระดูก กราม ไหล่ และแขน (เกิดอาการด้านซ้ายมากกว่าด้านขวา และเกิดอาการเหล่านี้อยู่อย่างน้อย 10 นาที) อาการเจ็บจะมากขึ้นเมื่อเคลื่อนไหว แต่บรรเทาลงเมื่อนอนพัก
- คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อย อาจหอบ (พบมากในผู้หญิง)
- ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ เหงื่อออกมาก วิงเวียน เป็นลม
- บางคนมีอาการของโรคหัวใจล้มเหลว ได้แก่ เหนื่อยง่าย วิงเวียน บวมที่หน้า ตัว ท้อง แขนขา มือ เท้า
- เมื่อหลอดเลือดสำคัญของหัวใจอุดตันพร้อมกันหลายเส้น กล้ามเนื้อหัวใจจะตาย หัวใจหยุดเต้น หมดสติ และเสียชีวิตทันที
การป้องกัน และลดความเสี่ยงของโรค
- ควรตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะหากมีคนในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
กินป้องกันไว้…หลอดเลือดหัวใจไม่อุดตัน
พลังงานที่ได้รับต่อวัน
อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต
- จำกัดน้ำตาล อาหารหวาน ขนมหวาน อาหารที่มีน้ำตาลสูง ควรบริโภคไม่เกินร้อยละ 25 ของพลังงานที่ได้รับทั้งหมดต่อวัน (น้ำตาล / คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่)
- จำกัดน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลสูง
- เลือกรับประทานข้าว อาหารประเภทแป้งที่ผ่านการขัดสีน้อย หรือไม่ขัดสี ซึ่งมีใยอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต
อาหารประเภทโปรตีน
- จำกัดการรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น หมึก กุ้ง หอย
- จำกัดการรับประทานหนังสัตว์ เช่น หนังไก่ หนังเป็ด เพราะหนังสัตว์ทุกชนิดมีไขมันสูง
- จำกัดการรับประทานไข่แดง เพราะมีโคเลสเตอรอลสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้ไขมันเกาะในผนังหลอดเลือด จนหลอดเลือดตีบตัน จึงควรจำกัดการรับประทานไข่ โดยเฉพาะไข่แดงไม่เกิน 4 ฟอง/สัปดาห์
- รับประทานเนื้อปลาอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์
อาหารประเภทไขมัน
- จำกัดไขมันทุกชนิด โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์ การรับประทานไขมันทั้งหมด ไม่ควรเกินร้อยละ 25 – 30 ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน (ไขมัน 1 กรัม ให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี่)
- จำกัด หรือหลีกเลี่ยงอาหารทอด
- จำกัดอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงทุกชนิด โดยจำกัดปริมาณโคเลสเตอรอลไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน
- จำกัดการรับประทานเนยเทียม หรือมาการีน
- ควรดื่มนมหรือรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมชนิดพร่องมันเนยอย่างสม่ำเสมอ
- เลือกรับประทานไขมันที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา เพราะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และรับประทานน้ำมันปลา น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ เพราะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีผลต่อการเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลที่ดี (HDL) และลดระดับโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL)
เน้นผัก และผลไม้
เพิ่มถั่วต่างๆ
ลดอาหารเค็ม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือโรคของหัวใจ และหลอดเลือด โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงพวงทอง ไกรพิบูลย์ / หนังสือสงครามในหลอดเลือด โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เฉลียว ปิยะชน / หนังสือโรคหัวใจ อาหารเสริมหัวใจดวงเดียวให้แข็งแรง สำนักพิมพ์แสงแดด