Necrotizing Fasciitis (NF) หรือโรคเนื้อเน่าชนิดลุกลาม โดยทั่วไปแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลัก ได้แก่ สเตรปโตค็อคคัส กลุ่มเอ (Group A Streptococcus) คลอสตริเดียม (Clostridium) เคล็บเซลลา (Klebsiella) สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) อีโคไล (E. Coli) และแอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา (Aeromonas Hydrophila) เป็นต้น ซึ่งเชื้ออาจจะปล่อยสารพิษทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังและกล้ามเนื้อจนส่งผลให้เนื้อเยื่อตายได้ โดยเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางผิวหนังหรือกระแสเลือดผ่านทางแผล ถูกบาด แผลถลอก รอยข่วน แมลงกัดต่อย การใช้เข็มฉีดยา หรือแผลผ่าตัด
ปัจจัยเสี่ยงของโรค NF มีหลายปัจจัย
- ภาวะทางสุขภาพที่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเบาหวาน (Diabetes) โรคไตเรื้อรัง โรคตับเรื้อรัง (Cirrhosis) โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (Peripheral Arterial Disease)
- ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น การใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น ยาหลังปลูกถ่ายอวัยวะ โรคมะเร็งหรือการรักษาด้วยเคมีบำบัด การติดเชื้อ HIV หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องอื่น ๆ
- การบาดเจ็บหรือการติดเชื้อบริเวณผิวหนัง เช่น บาดแผลเปิด เช่น บาดแผลผ่าตัด แผลถูกของมีคมบาด แผลไหม้ หรือแผลถลอก แมลงกัดต่อย การฉีดยาเข้าเส้นในผู้ที่ใช้ยาเสพติด
- การสัมผัสสิ่งแวดล้อมปนเปื้อน น้ำทะเลหรือดินที่ปนเปื้อน เช่น การสัมผัสน้ำที่มีแบคทีเรีย Vibrio vulnificus หรือ Aeromonas hydrophila การบาดเจ็บขณะอยู่ในสภาพแวดล้อมสกปรก เช่น การทำงานเกษตรกรรมหรือการลุยน้ำ
- อายุและเพศ พบมากในผู้สูงอายุ (อายุ > 60 ปี) ผู้ชายมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้หญิง
- ปัจจัยทางสุขภาพทั่วไป โรคอ้วน (Obesity) มีการไหลเวียนโลหิตไม่ดีและเสี่ยงต่อแผลติดเชื้อ ภาวะขาดสารอาหาร
- ประวัติการผ่าตัดหรือหัตถการทางการแพทย์ การผ่าตัดช่องท้องหรืออวัยวะอื่น ๆ การใส่ท่อหรือสายสวนที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อ
ผลกระทบจากโรค NF
ด้านร่างกาย การทำลายเนื้อเยื่อ (Tissue Damage) การติดเชื้อทำให้เนื้อเยื่ออ่อน (เช่น ผิวหนัง กล้ามเนื้อ ไขมัน) ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว การติดเชื้ออาจลุกลามไปยังอวัยวะหรือกระดูกใกล้เคียง
การสูญเสียอวัยวะ (Amputation) ในกรณีที่รุนแรงและการติดเชื้อไม่สามารถควบคุมได้ อาจต้องตัดแขนหรือขาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) หรือภาวะช็อกติดเชื้อ (Septic Shock) อาจเกิดขึ้นอวัยวะสำคัญ เช่น ไต ตับ หรือหัวใจ อาจล้มเหลว
การเสียชีวิต อัตราการเสียชีวิตสูง โดยเฉพาะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว อัตราเสียชีวิตอาจสูงถึง 20-40%
ด้านจิตใจ ความเครียดและความวิตกกังวล ผู้ป่วยที่รอดชีวิตอาจมีภาวะเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) จากการรักษาที่เจ็บปวดและการเผชิญกับความรุนแรงของโรค ภาวะซึมเศร้า (Depression) การสูญเสียอวัยวะหรือการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เช่น แผลเป็นที่เด่นชัด อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจในตัวเอง
ผลกระทบระยะยาว ความพิการถาวร การสูญเสียอวัยวะหรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้ออาจทำให้เกิดความพิการที่ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น ไม้เท้าหรือขาเทียม ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เนื่องจากการรักษาโรค NF มักเกี่ยวข้องกับการผ่าตัดครั้งใหญ่และการใช้ยาปฏิชีวนะในปริมาณมาก ผู้ป่วยอาจประสบปัญหาการติดเชื้อซ้ำ
ด้านการเงิน ค่ารักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพ เช่น การทำกายภาพบำบัด หรือการปรับบ้านสำหรับผู้พิการ
ผลกระทบต่อครอบครัวและผู้ดูแล ภาระทางการเงินและอารมณ์ของผู้ดูแลเพิ่มขึ้น การปรับตัวของครอบครัวต่อการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน
การรักษาและโอกาสหายขาด
การรักษาที่สำคัญ การผ่าตัด (Surgical Debridement) การตัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออกเป็นวิธีการหลักเพื่อหยุดการลุกลามของโรค ในบางกรณีอาจต้องผ่าตัดหลายครั้ง
การให้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ใช้ยาปฏิชีวนะชนิดแรงที่ครอบคลุมเชื้อแบคทีเรียทั้งชนิดแกรมบวก แกรมลบ และชนิดไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobes) เช่น Penicillin Clindamycin และ Carbapenem
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการรักษา ระยะเวลาที่ได้รับการรักษา การรักษาช้าเพิ่มความเสี่ยงต่อการลุกลามและเสียชีวิต สุขภาพพื้นฐานของผู้ป่วย ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงกว่า การดูแลหลังการรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ